วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2556

หมูตุ๋น สูตรโบราณ 1

   หมูตุ๋น

สูตร หมูตุ๋น นะคะ

1)หมู 3 ปอนด์ หรือ 1กิโลครึ่ง ไม่ต้องหั่นต้มไปทั้งก้อน

2)ใช้แบบ ตุ๋น 5 พลัง= อบเชย 1 แง่ง, โป๊ยกั๊ก 2 ดอก ,กระเทียม 5 กลีบใหญ่ ,พริกไทย บุบ 2 ชต., ขิงทุบ 1 แง่ง ค่ะ
(ถ้ามี ลูกตะกร้อสำหรับHerb ก็ใช้นะคะ ถ้าไม่มีไม่เป็นไร ต้มเสร็จแล้วค่อยกรองเอาอีกที)

3)เครื่องปรุงน้ำซุป
น้ำสะอาด ต้องท่วม หมู
หอมหัวใหญ่ 1 หัว ปอกเปลือก ต้มทั้งหัว ไม่ต้องหั่น
สูตรนี้ไม่ใช้น้ำปลานะคะ เขาว่ามันคาวน่ะค่ะ ใช้ซีอิ๊วขาว, ซอสแมกกี้, วูซเตอร์ซอส ,เกลือ 1 ช้อนชา

4)ส่วนเพิ่มซุป จะใช้ก็ได้ ไม่มีก็ไม่เป็นไร ไม่ต้องปวดหัวไปคิดมัน มี เห็ดหอมสด หรือ เห็ดหอมแห้งแช่น้ำตัดก้าน พอควร

วิธีทำ
รวมส่วนผสม 1) +2) +3) เข้าด้วยกัน ใส่น้ำพอท่วม ตุ๋นไปในหม้อตุ๋นประมาณ 6 ชม หรือจนเปื่อย

ถ้า ไม่มีหม้อตุ๋น ใช้หม้อธรรมดา ต้มครั้งแรกพอเดือด แล้วช้อนฟองทิ้ง เบาไฟต้มรุม ๆ ไป 1 ชม. ปิดเตา พอเย็นต้มไฟรุม ๆ ใหม่ ไปซัก 3-4 ครั้ง ก็จะเปื่อยแล้วค่ะ

ระหว่างต้ม/ตุ๋น ได้ประมาณ ครึ่งช่วง ให้ใส่เห็ดหอมไป มันจะได้เปื่อยพร้อมกันและหอมอร่อยดี

ระหว่างต้มก็คอยดมกลิ่นเครื่องเทศด้วยนะคะ บางทีกลิ่นมันจะแรงเกินไป ก้ช้อนเครื่องเทศออกซะบ้างได้เลย
ถ้าหอมหัวใหญ่ทั้งหัวที่เราต้มไปด้วยมันฉ่ำน้ำที่ต้มแล้ว ก็ช้อนทิ้ง(ทั้งหัว) ไปเลยค่ะ

เอาหมู ฯ ตุ๋น ที่ได้ที่แล้ว ทั้งหม้อใส่ตู้เย็นสัก 3 ชม. ช้อนไขมันที่ลอยออกทิ้งไป
เอา หมู มาหั่นชิ้นหนาๆ หั่นตามขวางเส้นเนื้อสัตว์
น้ำซุป ให้นำมากรอง หรือช้อนเครื่องเทศออกให้หมด นำไปตั้งไฟให้เดือดอีกครั้ง

นำ ไปเป็นน้ำซุปทำก๋วยเตี๋ยวได้ตามสะดวก ค่ะ เพิ่ม หมูสดลวก ตับลวก เหมือนก๋วยเตี๋ยวหมูตุ๋น ฯลฯ ตุ๋นเลยล่ะค่ะ ถ้าจะให้เป็นแบบตุ๋นยาจีนให้ใส่เก๋ากี๊ไปเวลาก่อนจะยกลง ต้มซัก 3 นาที

และสามารถเซฟไว้โดยแช่แข็งไว้ก็จะไม่เสียรสชาด ถ้าน้ำซุปแห้งก็เติมซอสปรุงรสไปได้ และยังอร่อยอยู่

วันศุกร์ที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2556

หมูสะเต๊ะ

วิธีทำหมูสะเต๊ะ
เครื่องปรุงและส่วนผสมหมูสะเต๊ะ
  1. เนื้อหมูนำมาแล่เป็นชิ้น (ขนาดประมาณ ขนาด 2 x 6 ซม.) 500 กรัม
  2. (แนะนำให้ใช้เป็นหมูสันนอกหรือเนื้อหมูส่วนสะโพก…หากเป็นเนื้อหมูรุ่นจะดีมาก เพราะเนื้อหมูจะนุ่ม)
  3. ลูกผักชีคั่วให้หอม 1 ½ ช้อนโต๊ะ (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้ครับ…ถ้าใส่จะหอมดี)
  4. ลูกยี่หร่าคั่วให้หอม ½ ช้อนโต๊ะ
  5. ข่าสับพอหยาบๆ 1 ช้อนชา
  6. ตะไคร้ซอย 1 ½ ช้อนโต๊ะ
  7. หัวกะทิ ½ ถ้วย
  8. ผงขมิ้น 1 ช้อนขา (ถ้ากลัวไม่เหลืองให้ใส่เพิ่มได้ แล้วแต่ชอบ)
  9. ผงกะหรี่ 1 ช้อนชา
  10. น้ำตาลทรายนวล 1 ½ ช้อนโต๊ะ
  11. พริกไทดำป่น 1/2 ช้อนชา (ถ้าไม่มีใช้พริกไทขาวแทนก็ได้)
  12. เกลือป่น 1 ช้อนชา
  13. ไม้เสียบหมูสะเต๊ะ
  14. ผงฟู ½ ช้อนชา หรือน้ำสัปปะรด 2 ช้อนโต๊ะ (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้…เพื่อให้เนื้อหมูนุ่มๆเด้งๆ)
เครื่องปรุงน้ำกระทิพรมหมูสะเต๊ะ
  1. หัวกะทิ 1 ถ้วย
  2. นมสด หรือนมสดตราคาร์เนชั่น/ตรานกเหยี่ยว 1 ถ้วย
วิธีทำ: นำหัวกระทิและนมสดมาผสมให้เข้ากัน ทำไว้สำหรับพรมสะเต๊ะขณะย่าง ที่ทำแปรงพรมด้วยใบเตยฉีก


วิธีทำหมูสะเต๊ะ
  1. โขลก ลูกผักชีคั่ว ลูกยี่หร่าคั่ว จนละเอียด จากนั้นใส่ข่า ตะไคร้ โขลกให้เข้ากันจนละเอียดดีแล้ว
  2. นำเครื่องที่โขลกใส่ลงไปในอ่างเนื้อหมู…(จากข้อ 1) จากนั้นก็ใส่น้ำตาล หัวกระทิ ผงขมิ้น ผงกะหรี่ พริกไทป่น ผงฟู เกลือป่น และน้ำตาลทราย คลุกเคล้าทุกอย่างให้เข้ากันดี ด้วยการคลุกเคล้าขยำๆเบาๆ ควรนวดนานๆ เพื่อให้เครื่องหมักซึมเข้าเนื้อหมูได้ดียิ่งขึ้น
  3. จากนั้นนำหมูไปใส่กล่องพลาติก นำไปแช่ในตู้เย็นช่องแข็ง แล้วหมักทิ้งไว้ 3-4 ชั่วโมง หรือจะหมักข้ามคืนก็ได้ยิ่งดี (การแช่ใว้ในความเย็นนานๆ…จะทำให้น้ำหมักหมูดูดซึมเข้าไปในเนื้อมาก…จะทำให้เนื้อหมูนุ่มดีค่ะ)
  4. เมื่อครบ 3 ชั่วโมงแล้ว นำมาเสียบไม้พักไว้ในตู้เย็น จนกระทั่งจะปิ้ง หรือ ถ้ายังไม่ทานให้ห่อให้สนิทแล้วนำเข้าแช่ในช่องแข็ง แล้วจึงนำออกมาพักในตู้เย็นช่องธรรมดาจนอ่อนตัวลง…แล้วจึงค่อยนำไปปิ้ง
  5. วิธีย่างหมูสะเต๊ะ คือ ก่อนที่จะอย่างหมูสะเต๊ะ ให้นำหมูที่เสียบไม้แล้วนำมาชุบในน้ำพรมหมูสะเต๊ะที่เตรียมไว้ แล้วจึงนำไปอย่างด้วยไฟปานกลาง (ห้ามใช้ไฟอ่อน หมูจะแข็งไม่อร่อย) แล้วขณะที่ย่างให้พรมน้ำกระทิ(ที่เตรียมไว้) ลงบนหมูสะเต๊ะขณะปิ้งเล็กน้อย และหมั่นพลิกหมูบ่อยๆ ให้สุกทั่วกัน ควรย่างให้พอสุกจะได้สะเต๊ะหมูเนื้อนุ่มละมุน (ถ้าย่างนานเกินไปเนื้อจะแห้งหยาบไม่อร่อย) และควรย่างกับเตาถ่านหรือเตาบาบีคิวจะได้กลิ่นหอมอร่อยมากยิ่งขึ้น
  6. จัดหมูสะเต๊ะใส่จานเสิร์ฟ พร้อมกับน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะและอาจาด หรือจะทำขนมปังปิ้งร้อนๆ ด้วยก็ยิ่งอิ่มอร่อยมากขึ้น



แนะนำเพิ่มเติม
  • ควรใช้เวลาที่เครื่องหมักหมูอย่างต่ำต้อง 3-5 ชม. ถ้าหมักค้างคืนได้จะยิ่งดี
  • อีกเคล็ดลับของร้านหมูสะเต๊ะชื่อดังคือ การหมักหมูที่ต้องแช่ในถังน้ำแข็งที่ใช้เป็นนำแข็งป่นเท่านั้น ห้ามแช่ช่องฟรีซเด็ดขาด (ซึ่งน่าจะมีส่วนทำให้เนื้อหมูนุ่มยิ่งขึ้น และน้ำหมักดูดซึมเข้าไปในเนื้อหมูได้ดียิ่งขึ้น) …ยังไงถ้ามีโอกาสลองนำไปทำดูนะครับ
  • สูตรนี้นอกจากใช้ทำหมูสะเต๊ะแล้ว ยังสามารถประยุกต์ใช้ทำเนื้อสะเต๊ะ ไก่สะเต๊ะได้ด้วย
  • หมูสะเต๊ะเวลาเสียบไม้ ให้เสียบแบบงูเลื้อยจะดี เนื่องจากเวลาปิ้งออกมาจะดูน่าทาน
  • หมูต้องมีติดมันหน่อยก็จะดี เพราะไม่งั้นปิ้งออกมาจะดูไม่งาม
  • ก่อนที่จะนำไม้หมูสะเต๊ะมาใช้…ควรนำไปแช่น้ำอย่างน้อยซัก 30 นาที หรือแช่น้ำค้างคืนไว้ก่อนยิ่งดี เพื่อไม่ให้ไม้ไหม้หรือดำขณะย่าง และจะทำให้เสียบง่ายขึ้น

อาจาด (สูตรอร่อยเข้มข้นกำลังดี)
สำหรับน้ำจิ้มอาจาดรสอร่อยกำลังดีนั้น รสชาติจะออกเปรี้ยวๆ ตัดด้วยรสหวานและเค็มนิดๆ พร้อมด้วยกลิ่นหอมๆ จากหอมแดง และสีสันจากผักและพริกที่ใส่ลงไป น้ำจิ้มใสๆข้นนิดๆ น่ากินนักเชียว แถมวิธีทำก็ไม่ยาก…สามารถอร่อยได้ง่ายๆกับสูตรดังนี้


เครื่องปรุงและส่วนประกอบ
- น้ำส้มสายชู ½ ถ้วย
- น้ำตาลทราย ¼ ถ้วย (+ 2 ช้อนโต๊ะ) (เพิ่มหรือลดได้นิดหน่อยขึ้นอยู่กับน้ำส้มสายชูที่ใช้)
- น้ำสะอาด ⅓ ถ้วย + 2 ช้อนโต๊ะ
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
- แตงกวาเลือกเอาลูกเล็ๆผ่าครึ่ง สไลด์บาง 100 กรัม
- ผักชีเด็ดเป็นใบ สำหรับโรยหน้าเล็กน้อย
- พริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นแฉลบบางๆ 1 เม็ด
-พริกชี้ฟ้าสีแดงหั่นแฉลบบางๆ 1 เม็ด
- หอมแดงลอกเปลือก ซอยบางๆ 2 หัว

วิธีทำอาจาด
  1. ใส่น้ำ น้ำตาลทราย น้ำส้มสายชูลงในหม้อ แล้วตั้งไฟเคี่ยวให้น้ำตาลและเกลือละลาย
  2. จากนั้นชิมให้ได้สามรส เปรี้ยว เค็ม หวาน หรือเปรี้ยว หวาน เค็ม แล้วแต่ชอบ
  3. จากนั้นพักไว้ให้เย็นก่อน เวลาจะเสิร์ฟถึงค่อยใส่แตงกวา หอมแดง พริกชี้ฟ้า และผักชี ลงในถ้วย…แล้วตักน้ำที่เคี่ยวไว้ลงไปผสม แล้วน้ำอาจาดเสิร์ฟพร้อมกับสะเต๊ะ และน้ำจิ้มสะเต๊ะ

วันพุธที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2556

หมูน้ำแดง สูตรโบราณ


เครื่องปรุง (สำหรับ 4 ที่)
เนื้อสันคอหมูหั่นเต๋า 1 1/2 * 1 1/2 นิ้ว 800 กรัม
แป้งสาลีอเนกประสงค์ 1/4 ถ้วยตวง
เนยเค็ม 1/4 ถ้วยตวง
ซอสมะเขือเทศ 1/2 ถ้วยตวง
พริกไทยเม็ดบุบพอแตก 1 ช้อนโต๊ะ
อบเชย ขนาด 1 นิ้ว 1 ชิ้น
ใบกระวาน 2 ใบ
น้ำสะอาด 4 ถ้วยตวง
รสดี รสหมู 2 1/2 ช้อนโต๊ะ
มะเขือเทศท้อ ผ่า 4 ชิ้นต่อ 1 ลูก 2 ลูก
เม็ดถั่วลันเตาต้มสุก 1/2 ถ้วยตวง
แครอทหั่นเต๋า 1*1 นิ้ว 1/2 ถ้วยตวง
มันฝรั่งหั่นเต๋า 1*1 นิ้ว 1/2 ถ้วยตวง
หอมใหญ่หั่นเต๋า 1*1 นิ้ว 1 ถ้วยตวง
พริกหวานสีเหลือง แดง หั่นเต๋า 1*1 นิ้ว อย่างละ 1/2 ถ้วยตวง
รสดีเมนู ผัดน้ำมันหอย 60 กรัม
น้ำสะอาด 1/4 ถ้วยตวง

วิธีทำ
1.นำเนื้อสันคอหมูคลุกแป้งสาลีให้ติดทั่ว กระทะใส่เนยเค็มแล้วเปิดไฟ พอกระทะร้อนเนยละลาย นำหมูลงจี่ให้ด้านนอกเหลือง แต่ด้านในยังไม่สุก ใส่ซอสมะเขือเทศลงผัดให้เข้ากัน ยกลงพักไว้
2.ใส่พริกไทย อบเชย และใบกระวาน ลงในหม้อ เติมน้ำสะอาดและรสดี รสหมู ต้มจนน้ำเดือดส่งกลิ่นหอม ใส่หมูที่เตรียมไว้ มะเขือเทศท้อ เม็ดถั่วลันเตา แครอท มันฝรั่ง หอมใหญ่ และพริกหวาน ลงต้มรวมกันด้วยไฟกลางค่อนข้างอ่อน จนทุกอย่างสุกนุ่ม ชิมรสเค็มนำ หวานผัก
3.ผสมรสดี เมนู ผัดน้ำมันหอยกับน้ำสะอาดให้เข้ากัน แล้วจึงเทใส่ลงในหม้อสตู คนจนมีลักษณะข้นเหนียวน้อยๆ ปิดไฟ
4.การจัดเสิร์ฟ ตักสตูหมูน้ำแดงใส่ชาม ทานกับขนมปังหรือข้าวสวยตามชอบ

หมูคั่วเกลือ สูตรโบราณ



ส่วนประกอบที่เอมี่ทำตามนี้่เรย
หมูสามชั้น 300 กรัม
กระเทียม 4-6 กลีบ
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปีบ 1 1/2 ช้อนชา
เกลือ 1 ช้อนชา

วิธีทำ
1. เราหั่นหมูชิ้นพอดีคำ หั่นยาก เลยเอากรรไกรช่วยตัด 555 (ปล. อย่าเลือกหมูที่ติดหนังนะ หั่นยากเว่อร์อ่ะ)
2. เอาหมูทอดในกะทะเลย ไม่ต้องใส่น้ำมัน ใส่กระเทียมลงไปผัดพอหอม เริ่มใส่ซีอิ๊วขาว น้ำตาลปี๊บ ผัดให้เข้ากัน
3. ผัดไปจนเริ่มแห้ง ถ้ามีน้ำมันเยอะให้เทออกไปบ้าง พอเริ่มขลุกขลิก ใส่น้ำลงไปหน่อย แล้วผัดต่อจนเริ่มแห้ง
4. โรยเกลือลงไปช่วงที่น้ำเริ่มแห้งนี่หละ ไม่ต้องยเอะมากนะคะ เพราะซีอิ๊วขาวช่วยเพิ่มรสเค็ใไปพอสมควร
5. เอาออกมาวางผึ่งไว้ บางคนทอดทั้งเส้นยาวแล้วค่อยมาหั่นก็ได้เหมือนกัน จะทานก็ค่อยหั่นทีละนิดๆๆ


 

คอหมูย่าง สูตร 1

คอหมูย่าง

 
คอหมู ย่างให้ฉ่ำๆ กับน้ำจิ้มรสเด็ด น้ำลายไหล~~ T^T จานนี้เพิ่งจะทำสดๆ ร้อนๆ เมื่อวานนี้เองครับ ว่าจะหาเมนูลดน้ำหนักพวกส้มตำมากินสักหน่อยแต่ดันอยากกินจานเคียงคอหมูย่างนี้ด้วย (เศร้าเลยไม่ผอมแต่จะอ้วนขึ้นด้วย) คอหมูหรืิอเนื้อสันคอ นี่ไม่ใช่อาหารธรรมดาๆ นะครับ... เพราะเป็นชิ้นส่วนที่ต้องมีการจับจองล่วงหน้าโดยตรงกับเขียงหมู (ผู้ทรงอิทธิพลในวงการหมู^@^) เพราะส่วนใหญ่พวกร้านอาหารเค้าจะมาจอง เนื้อสันคอ เอาไปทำคอหมูย่างกันล่วงหน้า และซื้อกันเป็นเจ้าประจำอยู่แล้ว คอหมูอย่างจะอร่อยสมบูรณ์แบบ ก็จะต้องไปด้วยกันกับน้ำจิ้มรสแซ่บกับสูตรการหมักคอหมูย่างอย่างพิถีพิถันเหมือนพระเอกกับนางเองนั่นเอง
รูปภาพ
 
สูตรหมักคอหมูย่าง

1. เนื้อสันคอ ชิ้นกลางๆ 1 ชิ้น
2. ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
3. ซอสหอย (น้ำมันหอย) 2 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำตาลทราย 1 ½ ช้อนโต๊ะ
5. พริกไทย 1 ช้อนชา
6. เกลือป่น ½ ช้อนชา
7. นมข้นจืด หรือ นมสด 3 ช้อนโต๊ะ

น้ำจิ้มคอหมูย่าง

1. พริกป่น 1 ช้อนโต๊ะ
2.น้ำมะขามเปียก ½ ช้อนโต๊ะ
3. น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
4. น้ำตาล ½ ช้อนโต๊ะ
5. ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
6. ต้นหอมผักชี ตามชอบ
ขั้นตอนการปรุง:
วิธีหมักคอหมูย่าง

1. เนื้อสันคอนำมาแล่เป็นชิ้นบางๆ นำมาหมักกับเครื่องปรุงต่างๆ ขยำให้เข้ากันประมาณ 15 นาที หมักทิ้งไว้อีก 1 ช. ม.

2. มาถึงขั้นตอนการย่าง เอาคอหมูย่างมาวางบนตะแกรงย่างด้วยไฟอ่อน ถ้าใช้เตาถ่านจะหอมมากครับ ย่างจนสุกดีแล้วหั่นเป็นชิ้นบาง จัดใส่จายไว้

การทำน้ำจิ้มคอหมูย่าง

1. นำส่วนผสมน้ำจิ้มต่างๆผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ
2. ใส่ผักชีต้นหอมลงไป พร้อมเสิร์ฟกับคอหมูย่าง

วันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2556

หมูมะนาว สูตร 1

สูตรอาหารไทย : หมูมะนาว

เครื่องปรุง + ส่วนผสม
หมูมะนาว
* เนื้อหมูหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ 300 กรัม
* กระเทียมสับละเอียด 2 ช้อนโต๊ะ
* พริกขี้หนูซอย 5 - 10 เม็ด (ปรับได้ตามความชอบ)
* ผักชีหั่น 1 ช้อนโต๊ะ
* ซิอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
* น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
* น้ำตาล 1 ช้อนโต๊ะ
* น้ำมะนาว 3-5 ช้อนโต๊ะ
* คะน้า 1 ต้น (ปอกเปลือกและหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ)
* ผักชี (สำหรับแต่งอาหาร)
มะนาว
หมูมะนาว
วิธีทำทีละขั้นตอน
1. เตรียมทำน้ำราด โดยผสมกระเทียม, พริก, ซิอิ๊วขาว, น้ำปลา, น้ำตาล และน้ำมะนาว คนจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันดี ปรับรสชาติได้ตามที่ต้องการ
2. นำผักคะน้าไปลวกในน้ำเดือด จนสุกแล้วจึงสะเด็ดน้ำและจัดใส่จานเสริฟไว้
3. หลังจากลวกคะน้าแล้ว ก็นำหมูไปลวกต่อจนสุกทั่ว เสร็จแล้วนำออกมาสะเด็ดน้ำ
4. จัดหมูที่ลวกแล้วใส่จานเสริฟที่จัดผักคะน้าไว้ก่อนหน้านี้ จากนั้นเทน้ำราดลงบนหมู แต่งหน้าด้วยผักชี จากนั้นจึงเสริฟเป็นของทานเล่นหรือกับแกล้มก็ดี

หมูแดงอบน้ำผึ้ง

วิธีทำ หมูแดงอบน้ำผึ้ง รสเด็ด
วิธีทำ หมูแดงอบน้ำผึ้ง รสเด็ด


วันนี้ขอนำเสนอเมนูอาหารจีนที่ทุกท่านน่าจะชอบรับประทานกันนะครับ ซึ่งก็คือเมนู หมูแดงอบน้ำผึ้ง เหมาะมากที่จะทำเมนูนี้ในโอกาสเลี้ยงสังสรรค์กับเพื่อนๆ หรือจะทำให้ครอบครัวรับประทานยิ่งช่วงนี้มีวันหยุดบ่อยเมนูหมูอบน้ำผึ้งน่าจะเหมาะมากนะครับ เอาล่ะมาดูส่วนผสมเครื่องปรุงและวิธีทำเมนูหมูอบน้ำผึ้งกันเลยดีกว่า


เครื่องปรุง หมูแดงอบน้ำผึ้ง รสเด็ด


หมูส่วนสะโพก 1 กิโลกรัม

ซอสแม็กกี้้ 2 ช้อนโต๊ะ

เกลือ 1 ช้อนชา

พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา

ซอสมะเขือเทศ 2 ช้อนโต๊ะ

น้ำผึ้ง 1/4 ถ้วย

วิธีทำ หมูแดงอบน้ำผึ้ง


1. ล้างหมูซับให้แห้ง ผสมซอสแม็กกี้ เกลือ พริกไทยป่น และซอสมะเขือเทศเข้าด้วยกันใช้ส้อมจิ้มเนื้อหมูโดยรอบ ทาด้วยน้ำผึ้งหมักไว้ 1 ชั่วโมง แล้วจึงทาส่วนผสมที่ผสมให้ทั่วถาดหุ้มฟอยด์ อบไฟ350ฟาเรนไฮต์ ประมาณ 40 นาที ให้หมูสุกนุ่ม เปิดกระดาษออกทาน้ำผึ้งอีก 2 ช้อนโต๊ะ ใช้ส้อมจิ้มอบไฟ 400 องศาฟาเรนไฮต์ ให้สุกเหลือง แล้วจึงหั่นเป็นชิ้นหนา 1 เซ็นติเมตร วางเรียงลงจานเสริ์ฟ ราดด้วยน้ำเนื้อ แต่งด้วยผักสุก

เครื่องปรุง น้ำเนื้อที่ใช้ราดหมูแดงอบน้ำผึ้ง


แป้งสาลี 2 ช้อนโต๊ะ

หอมใหญ่สับ 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำมัน 1 ช้อนโต๊ะ

น้ำเนื้อที่อยู่ในถาด 1/2 ถ้วย

น้ำซุป 1/2 ถ้วย

น้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ

พริกไทย 1/4 ช้อนชา

เกลือ 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ น้ำเนื้อที่ใช้ราดหมูแดงอบน้ำผึ้ง


ผัดหอมใหญ่กับน้ำมันให้หอม ละลายแป้งกับน้ำซุปใส่ลงในกระทะ ใส่น้ำเนื้อ ใส่เกลือ พริกไทย ใส่น้ำผึ้ง ตั้งไฟต่อพอเหนียวยกลงราดบนหมูแดงที่เตรียมไว้ พร้อมรับประทาน